สมุนไพรพื้นบ้าน ครบเครื่องเรื่องน่ารู้ ที่ยังไม่รู้
พืชผัก ต้นไม้ ใบหญ้า แทบทุกแห่งล้วนได้ชื่อว่าเป็นพืชสมุนไพรเกือบทั้งนั้น โดยเฉพาะในประเทศไทยล้วนมีสมุนไพรเป็นของดีที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แถมยังชอบซุกซ่อนอยู่ในทุกที่ที่เราคาดไม่ถึง บางอย่างก็อยู่ในอาหาร บางชนิดก็เป็นไม้ประดับที่เราเห็นกันจนชินตาจนลืมไปว่ามันมีคุณค่าทางยาอยู่ด้วย
สมุนไพรอยู่คู่คนไทยมานาน ถือเป็นมรดกแห่งภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและสืบทอดโดยผ่านการถ่ายทอดเรียนรู้ จากรุ่นสู่รุ่น ต่างคุ้นเคยและรู้จักพืชสมุนไพรมานาน มีการใช้พืช สมุนไพรเป็นยารักษาโรค เป็นอาหารพื้นบ้าน ใช้บำบัดอาการเจ็บป่วยนั้นมีทั้งการใช้เพียงชนิดเดียว หรือรวมกันเป็นตำรับยา เพื่อการเสริมฤทธิ์ เสริมสรรพคุณ และลดฤทธิ์ของตัวยาบางตัวในตำรับ เป็นภูมิปัญญาอันชาญฉลาดของบรรพบุรุษเราที่ทำให้การใช้ยาสมุนไพร มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการเจ็บป่วยได้ จนมีคำพูดที่ว่า “กินปลาเป็นหลัก กินผักเป็นยา กินกล้วยน้ำหว้าบำรุงร่างกาย”
ในปัจจุบันนี้เป็นยุคที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ เพราะมนุษย์เริ่มตระหนักรู้ถึงคุณค่าความสำคัญของมันที่มีมากกว่าสารเคมี ทำให้ ประเทศไทยซึ่งมีแหล่งรวมของการได้เปรียบด้านพืชพรรณธรรมชาติสภาวะความเฟื่องฟูของสมุนไพรจึงเกิดขึ้นกระแสนิยมดูแลรักษาสุขภาพ โดยวิถีธรรมชาติและหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีของผู้บริโภค ส่งผลให้สมุนไพรเข้ามาเป็นหนึ่งในวัตถุดิบจากธรรมชาติที่แวดวงธุรกิจ Health and Wellness ทั่วโลกกำลังต้องการสมุนไพรไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต อาทิ เครื่องสำอาง ยาและอาหารเสริม ในปี 2563 มีมูลค่าการตลาดรวมราว ๆ 91 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าจะขยับไปสู่ระดับ 166 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภายในปี 2573 เฉลี่ยเติบโตร้อยละ 6.5 ต่อปี ขณะที่ประเทศไทยเล็งเห็นโอกาสทางการตลาดจากเทรนด์ บริโภคดังกล่าว รวมทั้ง มีความได้เปรียบด้านวัตถุดิบมีสมุนไพรกว่า 1,800 ชนิดที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์เชิงอุตสาหกรรมได้จึงนำไปสู่นโยบายสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจสมุนไพรของไทย และประการสำคัญการสร้างความยั่งยืนให้กับตลาดสมุนไพรของไทย เป็นต้นว่าการยกระดับการผลิตเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและความแตกต่างให้มากขึ้น ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนส่งเสริมสมุนไพรไทย” แผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่2 พ.ศ. 2566 – 2570” ภายใต้การกำกับ ดูแลของคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ทำให้เกิดการผลิตสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ส่งเสริมความเชื่อมั่นในการใช้สมุนไพร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดทั้งในและต่างประเทศ นำมาซึ่งความมั่นคงทางสุขภาพและเศรษฐกิจของประเทศในทุกระดับ